เครื่องสำรองไฟ UPS แอมป์สูง

แนะนำ เครื่องสำรองไฟ UPS แอมป์สูง ราคาโปรโมชั่น จากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำ คุ้มค่าดี รับบัตรเครดิต มีบริการเก็บเงินปลายทาง ได้ของชัวร์ จัดส่งด่วนทั่วไทย สั่งได้ 24 ชั่วโมง

[affegg id=63]

การเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟฟ้า UPS

การเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟฟ้า UPS (Uninterruptible Power Supply) เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญในการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราจากการขาดไฟฟ้าที่ไม่คาดคิด และเพื่อให้ได้ระบบที่เหมาะสมที่สุด สำหรับความต้องการของคุณ คำถามที่ต้องพิจารณามีมากมาย ตั้งแต่ขนาดของ UPS ไปจนถึงความสามารถในการรับมือกับโหลดไฟฟ้าแบบเฉพาะทาง ดังนั้นเพื่อที่จะช่วยให้คุณทำการเลือกซื้อ UPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเคล็ดลับบางประการที่คุณควรทราบ.

1. การทดสอบความเสถียรของไฟฟ้า

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกซื้อ UPS ควรทำการทดสอบความเสถียรของไฟฟ้าที่คุณใช้งานอยู่ ระบบไฟฟ้าที่มีปัญหาบ่อยๆ อาจทำให้การเลือกซื้อ UPS ไม่ได้ผลเต็มที่ การตรวจสอบความเสถียรของไฟฟ้าจะช่วยให้คุณทราบถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและปรับปรุงระบบไฟฟ้าก่อนการเพิ่ม UPS เข้าไป.

2. การคำนึงถึงความต้องการพลังงาน

การเลือกขนาดของเครื่องสำรองไฟฟ้า จำเป็นต้องคำนึงถึงความต้องการพลังงานของอุปกรณ์ที่คุณต้องการปกป้อง ให้รวมทั้งกระแสที่ใช้งานปกติและกระแสจะต้องการเมื่อมีการสลับไปยังเครื่องสำรองไฟ UPS ในกรณีขาดไฟฟ้า การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะทำให้มันสามารถทำงานได้ตามที่คุณต้องการ.

3. การตรวจสอบความทนทานทางกลาง

UPS ที่มีความทนทาน ไฟตก ไฟกระชาก (Surge Protection) จะช่วยปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากการกระโดดไฟฟ้าที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย. การเลือกซื้อ UPS ที่มีคุณสมบัตินี้สามารถช่วยปกป้องอุปกรณ์ที่มีราคาสูงและทำให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า.

4. ความสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้โดยไม่ต้องปิดระบบ (Hot-swappable)

การเลือกซื้อ UPS ที่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ โดยที่ไม่ต้องปิดระบบ (Hot-swappable) จะทำให้คุณสามารถบำรุงรักษา UPS ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องหยุดการทำงานของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่.

5. การระบุเวลาการสำรองไฟ

ความสำคัญของเวลาการสำรองไฟ ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของระบบคุณ. หากคุณต้องการ UPS เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน คุณจะต้องเลือก UPS ที่มีเวลาการสำรองไฟที่ยาวนาน โดยดูที่ความจุของแบตเตอรี่

6. การดูแลรักษา และอายุของแบตเตอรี่ UPS

อายุของแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟสามารถถูกบำรุงรักษาได้ โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ผลิต ซึ่งอาจรวมถึงการไม่ให้แบตเตอรี่หมดพลังงานไปนานๆ และการเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ในการทดสอบ และตรวจสอบ อายุของแบตเตอรี่ในเครื่องสำรองไฟ เป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้คุณทราบว่าอุปกรณ์ของคุณยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณตระหนักถึงเวลาที่ควรทำการบำรุงรักษาหรือการเปลี่ยนแบตเตอรี่

วิธีการทดสอบอายุแบตเตอรี่

  1. การใช้งานปกติ: คุณสามารถทดสอบอายุของแบตเตอรี่ได้โดยการใช้งานปกติ ถ้าคุณพบว่าแบตเตอรี่หมดพลังงานได้เร็วมากจริงๆ แบตเตอรี่ที่มีอายุยาวนานควรทนทานต่อการใช้งานปกติได้นานๆ โดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ ถ้าคุณพบว่าแบตเตอรี่ต้องการการชาร์จบ่อยๆ นอกเหนือจากความสามารถของเครื่องชาร์จ อาจเป็นเครื่องชาร์จที่ไม่เข้ากับแบตเตอรี่หรือแสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มมีอาการสึกหรอ
  2. การใช้อุปกรณ์ตรวจสอบ: อุปกรณ์ตรวจสอบอายุแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟอาจเป็นเครื่องวัดที่วัดแรงดันไฟฟ้าหรือปริมาณพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ คุณสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่ของคุณได้
  3. การตรวจสอบประจำ: การตรวจสอบแบบกำหนดรอบ ประจำเดือน ประจำไตรมาส หรือประจำปี
  4. ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า: คุณสามารถใช้เครื่องมือ เพื่อตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ว่ายังคงสูงเท่าที่ควรหรือไม่
  5. ตรวจสอบปริมาณพลังงาน: หากคุณมีอุปกรณ์ที่สามารถวัดปริมาณพลังงานในแบตเตอรี่ได้ คุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อตรวจสอบว่ายังมีพลังงานเพียงพอที่จะให้กับอุปกรณ์ของคุณหรือไม่

การดูแลและการบำรุงรักษา

  1. เพื่อให้แบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟให้มีประสิทธิภาพ คุณควรดูแลและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากการเก็บรักษาแบตเตอรี่ในที่แห้งและเย็นที่เหมาะสม คุณยังควรเช็คว่ามีการอัพเดทเฟิร์มแวร์ของเครื่องชาร์จหรือไม่ เพราะบางครั้งอัพเดทเฟิร์มแวร์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จแบตเตอรี่ได้
  2. เลือกซื้อเครื่องสำรองไฟที่มีอายุแบตเตอรี่ที่ดี เมื่อคุณต้องการซื้อเครื่องสำรองไฟใหม่ นอกจากความทนทานและความคุ้มค่า คุณยังควรพิจารณาอายุของแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟที่มากพอต่อความต้องการของคุณ
ใส่ความเห็น